นโยบายรัฐบาล เดือนต่างๆ
กันยายน
2567

นายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยได้ประกาศ 10 นโยบายเร่งด่วน ดังนี้ 1. แก้หนี้ทุกระบบครบวงจร 2. ดูแล ปกป้องผู้ประกอบการ 3. ลดราคาพลังงาน "ค่าโดยสารราคาเดียว" ตลอดสาย ลดภาระค่าเดินทาง 4. ดึงเศรษฐกิจใต้ดินเข้าระบบภาษี 5. เพิ่มเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าถึงแหล่งทุนประกอบอาชีพ 6. ยกระดับภาคการเกษตร "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" 7.เพิ่มมูลค่าและราคาพืชผลการเกษตร 8. ส่งเสริมการท่องเที่ยวกระจายเม็ดเงิน 9. แก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ 10 พัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีนโยบายระยะกลางและระยะยาว โดยเฉพาะการเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ผ่านการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม ส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาคนทุกช่วงวัย ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเร่งฟื้นคาวมเชื่อมั่นต่อนานาประเทศผ่านการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศ และพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง

ครม.อนุมัติงบ 3 พันล้านช่วยน้ำท่วม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) โดยประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เป็น One Stop Service ในการติดตามสถานการณ์อุทกภัยทุกมิติ ทั้งการติดตามสภาพอากาศเพื่อแจ้งเตือนภัยอย่างทันท่วงที การส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งการติดตามความช่วยเหลือเยียวยาในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ครม. ได้มีมติเห็นชอบงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,045,519,000 บาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เสนอ

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ครม.มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 14.5 ล้านคน โดยจ่ายเงินเข้าพร้อมเพย์หรือบัญชีที่มีการลงทะเบียนในการรับนสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 10,000 บาท โดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.67 เป็นต้นไป

งดเก็บค่าไฟในพื้นที่น้ำท่วม

ครม.เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย ภาคเหนือและภาคอีสาน ด้วยการงดเก็บค่าไฟเดือนกันยายน และมอบส่วนลดค่าไฟ 30% ในเดือนตุลาคม

มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกร ระยะ 2-3

ครม.เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้แก่ลูกหนี้รายย่อย ธ.ก.ส. 1.85 ล้านราย หลังมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 1 จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.67 โดยระยะที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - 30 ก.ย.68 และระยะที่ 3 จะเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.68 - 30 ก.ย.69 เพื่อลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ ธ.ก.ส.ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากโควิด-19 และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาการประกอบอาชีพ

พัฒนาทางรัฐเชื่อมข้อมูลช่วยเหลือประชาชน

นายกฯสั่ง กระทรวงดีอี เร่งพัฒนาแอปฯทางรัฐในการเป็นศูนย์รวมข้อมูลผู้ประสบภัยในการจัดสรรความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังให้แอปฯดังกล่าวเป็นศูนย์กลางในการลงทะเบียนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรในการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทั่วถึง รวมทั้งให้เร่งพัฒนาระบบ Cell Broadcast ในการแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที

ตุลาคม
2567

ยกระดับรถโดยสารสาธารณะเร่งด่วน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยมีข้อสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการยกระดับรถโดยสารสาธารณะอย่างเร่งด่วนภายใน 15 วัน พร้อมเรียกรถโดยสารที่ติดตั้งก๊าซ NGV 13,426 คัน เข้ามาตรวจสภาพทั้งหมด หากไม่พร้อมสั่งห้ามออกใช้งานทันที

ปรับหลักเกณฑ์เหมาจ่ายเยียวยา 9000 บาททุกครัวเรือน

ครม. ไฟเขียวปรับหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือแบบเหมาจ่าย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท จากเดิมจ่ายตามขั้นบันไดในอัตรา 5,000 7,000 และ 9,000 บาท โดยสั่งการให้เร่งจ่ายเงินเยียวยาถึงประชาชนโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังอนุมัติค่าล้างโคลนบ้านละ 10,000 บาท โดยให้สำรวจเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อน

รัฐบาล ประกาศ ลดเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 39 ถึงมี.ค.2568

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้าง จาก 5% เหลือ 3% และผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 432 บาท เหลือ 283 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่งวดเดือน ต.ค. 67 - มี.ค. 68

Kick off ฟื้นฟูเศรษฐกิจ คาดเงินสะพัด 1.1 แสนล้านบาท

รัฐบาลเดินหน้ากดปุ่มโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" ให้ผู้ประกอบการ-ประชาชน กลับมาคึกคักอีกครั้ง สั่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องการกระตุ้นสนับสนุน ปชช.ทุกมิติ

Thailand Winter Festivals เที่ยวไทยฤดูหนาวผ่าน 7 กิจกรรมสุดว้าว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรม “Thailand Winter Festivals” ในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด 7 Wonders จัด 7 ประเภทกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศตลอดช่วงฤดูหนาว อาทิ งานลอยกระทง งาน Countdown กิจกรรมกีฬา กิจกรรมวัฒนธรรม เทศกาลอาหาร เทศกาลดนตรี และเทศกาลแสงสี (Lighting & Illumination) พร้อมกันนี้ได้ประกาศแคมเปญ “เหนือพร้อม...เที่ยว” ที่จะเริ่ม 1 พ.ย. นี้ ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยล่าสุด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ที่ฟื้นฟูและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว

เร่งรัดแก้ปัญหาสัญชาติกว่า 4.8 แสนคน

ครม. เห็นชอบกรอบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนออนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาในอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร ซึ่งรวมแล้วมีราว 4.8 แสนคน

พฤศจิกายน
2567

กห.เดินหน้านโยบายผลักดันการสมัครใจเป็นทหารใหม่สูงขึ้นทุกปี มีเงินเดือน-สวัสดิการเพียบ

หลังจากการลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อตรวจเยี่ยม หน่วยฝึกทหารใหม่ ณ ค่ายพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าสถิติผู้สมัครใจเป็นทหารกองประจำการ สูงขึ้นทุกปี นับเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของกองทัพที่มีผู้ให้ ความสนใจสมัครใจเข้าเป็นทหารในปริมาณที่สูงขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงกลาโหม

ไฟเขียว 8 โครงการฟื้นฟูเกษตกรจากอุทกภัยปี 67 รวม 2.5 พันล้าน

ครม. มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินแผนงาน/โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย เพื่อสร้างรายได้หรือลดรายจ่ายในครัวเรือนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2567 ให้สามารถทำการผลิตได้ทันทีหลังน้ำลด เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้และผลผลิตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ในระยะเวลาอันสั้น ปี 2567 กรอบวงเงิน 2,553,009,800 บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ

ไฟเขียวสินเชื่อ สร้างอาชีพ-ซื้อ-ซ่อม-สร้าง เพื่อที่อยู่อาศัย

ครม. ไฟเขียวสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ - สินเชื่อซื้อซ่อมและสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย วงเงินรวม 7 หมื่นล้านบาท ผ่านธนาคาร ธอส. และธนาคารออมสิน หวังช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยควบคู่กับการสร้างอาชีพในภาคอสังหาริมทรัพย์ พร้อมแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

แก้ปัญหาที่ดินคนกับป่า ผ่าน 2 ร่าง พ.ร.ฎ.ป่าอนุรักษ์

ครม. มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและสามารถอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าได้

เคาะมาตรการจ่ายเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ ก่อนตรุษจีน

ที่ประชุม คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มการบริโภค ที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยจะดำเนินการเงินหมื่นเฟส 2 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ และต้องไม่เป็นกลุ่มที่ได้เงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในเฟสแรกไปแล้ว

รัฐเร่งแก้หนี้สินครัวเรือน 1.3 ล้านล้านบาท - ปรับโครงสร้างหนี้ พักดอกเบี้ย 3 ปี

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารรัฐ จะพิจารณากรณีหนี้ครัวเรือน จะแบ่งเป็นกลุ่มผ่อนรถ ผ่อนบ้าน หนี้จากการบริโภค โดยจะเป็นกลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาหนี้มาไม่นาน ไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่น่าจะขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ อยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งกำหนดวงเงินรวมประมาณ 1 - 1.3 ล้านล้านบาท โดยจะพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี จะทำให้ประชาชนมีความสามารถมีเงินไปใช้บริโภคหรือลงทุนมากขึ้น และอาจทบทวนเรื่องการลดการผ่อนเงินต้นให้น้อยลง ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนเพราะการพักดอกเบี้ย 3 ปี จะช่วยเติมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ได้มากขึ้น และคณะกรรมการกำลังพิจารณามาตรการเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3 ปีแรกที่ชำระเงินกู้ จะปรับวงเงินผ่อนชำระให้ลดลงกว่าเดิม ซึ่งเชื่อว่าหากกลุ่มคนเหล่านี้ได้รับการปรับโครงสร้างนี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ธันวาคม
2567

ครม. สัญจรทุ่มงบ 1.9 หมื่นล้านโครงการพื้นฟูเร่งด่วน-ระยะยาว “เชียงใหม่ - เชียงราย”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จังหวัดเชียงใหม่ เห็นชอบหลักการโครงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ระยะเร่งด่วน 39 โครงการ วงเงิน 641.13 ล้านบาทเห็นชอบหลักการตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ โครงการเร่งด่วนและระยะยาวของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย (รวม 381 โครงการ) วงเงิน 19,282 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงการเยียวยาให้แก่ประชาชน

ครม. ไฟเขียวเงินอุดหนุนเด็กตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือน - 6 ปี ให้ 600บาท/คน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได เบี้ยความพิการ 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า

ครม.เห็นชอบการให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าโดยไม่ต้องมีการคัดกรองรายได้ของครอบครัว (เดิมครัวเรือนต้องมีสมาชิกที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี) เพื่อให้ครอบคลุมและทำให้เด็กได้รับความช่วยเหลือแบบถ้วนหน้า ไม่ตกหล่น และขยายอายุของเด็กให้ครอบคลุม เริ่มจากเด็กในครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 6 ปี (เดิมตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี) ได้รับเงินในอัตรา 600 บาท/คน/เดือน (เท่าเดิม) เพื่อเป็นหลักประกันว่าเด็กทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แม้ครอบครัวจะมีรายได้ลดลง ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได กลุ่มคนพิการ ปรับเบี้ยความพิการให้สอดคล้องกับค่าครองชีพเป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการนำคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ สามารถเข้าถึงสิทธิได้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและเป็นธรรม

เคาะจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ให้ชาวนาทั่วประเทศ

ครม.เห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนาในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน คาดจ่ายได้ภายใน 10 วันทำการ

มอเตอร์เวย์ M9 บางขุนเทียน – บางบัวทอง

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรมทางหลวง ดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน - บางบัวทอง เพื่อช่วยแบ่งเบาปริมาณจราจร บนถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันตก และเชื่อมต่อโครงข่ายทางหลวงพิเศษรอบกรุงเทพมหานครที่ขาดหาย

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประธานพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วขึ้นประดิษฐาน ณ มณฑป มณฑลพิธีท้องสนามหลวง รัฐบาลได้จัดให้มีริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จำนวน 24 ขบวน โดยผู้เข้าร่วมเดินริ้วขบวนประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานของไทย - จีน องค์กรเครือข่าย 5 ศาสนา และกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,700 คน

Amazing “วิจิตร เจ้าพระยา 2024” - สุขทันทีปลายปีเที่ยวไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ร่วมชมงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ปรากฏการณ์แห่งแสง สี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้การดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2567 สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงปลายปี เนรมิตความสวยงามตระการตาของริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถ่ายทอดเสน่ห์ความเป็นไทยด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับนวัตกรรมมัลติมีเดียหลากหลายรูปแบบ พร้อมการจัดแสดงโดรนแปรอักษรและพลุสุดอลังการ กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปลายปี สร้างกระแสเงินหมุนเวียนแล้ว 4,432 ล้านบาท

"คุณสู้ เราช่วย" แก้หนี้ประชาชน

โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่ 1. “จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็กที่มีวงเงินไม่สูงมาก 2. “จ่าย ปิด จบ” ช่วยลดภาระหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย (NPL) มียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยรัฐบาลเชื่อว่า 2 มาตรการนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ครอบคลุมลูกหนี้รวมจำนวน 2.1 ล้านบัญชี เป็นลูกหนี้ 1.9 ล้านราย และมียอดหนี้รวมประมาณ 8.9 แสนล้านบาท

2568 "โอกาสไทย ทำได้จริง"

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล รอบ 3 เดือน (90 วัน) และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีให้แก่ข้าราชการระดับสูง ภายใต้แคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง”

“ซิมนักเรียน” อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการศึกษาของเด็กไทย

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ กสทช. ช่วยแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาหาความรู้ทางโลกออนไลน์ ผ่าน “ซิมนักเรียน” โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แก้ไขปัญหาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เพิ่มโอกาสทางการศึกษา จำนวน 357,000 ซิม ทั่วประเทศ สามารถใช้ซิมที่มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตฟรี 6 เดือน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 31 กรกฎาคม 2568

นายกฯลงใต้ส่งกำลังใจผู้ประสบอุทกภัย "สุราษฎร์ฯ-นครฯ"

นายกรัฐมนตรีได้ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เพื่อประชุม ร่วมกับส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง พลเรือนและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้างานในพื้นที่เพื่อปรับแผนการช่วยเหลือ และการฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณในการเยียวยา ให้ตรงกับสภาพปัญหาของพื้นที่ และพบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัย

ปภ.จ่ายเยียวยาน้ำท่วมใต้รอบแรกภายในสิ้นเดือน ธ.ค.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เร่งดำเนินการสำรวจและตรวจสอบกรณีคำร้องของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตามมติ ครม. 3 ธ.ค.67 เพื่อให้สามารถจ่ายเงินเยียวยาประชาชน 9,000 บาทกลุ่มแรกภายในสิ้นเดือน ธ.ค. ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้เร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด

นายกฯลุยอีสานติดตาม ODOS และ SML

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามประเด็นโครงการ “หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน” (ODOS) ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของทุนการศึกษาที่เป็นเสมือนการเปิดประตูแห่งโอกาสให้กับเด็กไทย นอกจากนี้ยังได้ติดตามโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) พร้อมย้ำแนวคิด "ส่งมอบทุนตรงสู่หมู่บ้าน มุ่งเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วม"

ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ

ครม.มีมติเห็นชอบ 3 มาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ 1. ภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์ฯ 2. มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 3. ลดภาษีสรรพสามิตสถานบริการกรตุ้นท่องเที่ยว

ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเตรียมรับเงิน 10,000 บาท เฟส 2

ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ เตรียมแจกเงิน 10,000 บาทให้แก่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยมีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี และมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งนี้ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์รับเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ

1 ม.ค. 68 ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท 4 จังหวัด 1 อำเภอ

ครม. รับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2568 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดนำร่อง

คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่เฟส 4 ทั่วประเทศ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Kick off 30 บาท รักษาทุกที่ เพื่อคนไทย สุขภาพดีถ้วนหน้า ระยะที่ 4 ครอบคลุมทั่วประเทศ 1 มกราคม 2568”

โปรดติดตามต่อไป...